จากเหตุการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้ (2563) ซึ่งนับว่าหนักหนาและรุนแรงมาก สร้างความเสียหายให้กับทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่า รวมถึงคร่าชีวิตจิตอาสาและเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าที่เข้าไปช่วยกันดับไฟ อีกทั้งส่งผลต่อคุณภาพอากาศ ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงติดอันดับหนึ่งของโลกหลายสัปดาห์ติดต่อกัน ด้วยตระหนักถึงมหันตภัยจากไฟป่า
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในฐานะศูนย์กลางสนับสนุนทางวิชาการและเชื่อมโยงทุกภาคส่วนได้ดำเนินการถอดบทเรียนจากวิกฤตการณ์หมอกควันและไฟป่า โดยผู้บริหาร คณาจารย์และนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีส่วนร่วมดำเนินการแก้ปัญหาหมอกควันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งบูรณาการองค์ความรู้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ สร้างนวัตกรรมในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์หมอกควัน พร้อมเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควันในอนาคต โดยหวังว่าในท้ายที่สุดจะนำมาซึ่งการลดปัญหาหมอกควันได้อย่างสำเร็จและยั่งยืน
ในภารกิจที่ท้าทายนี้ “ศูนย์ภูมิภาคเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศภาคเหนือ คณะสังคมศาสตร์” หรือ GISTNORTH ได้เริ่มดำเนินงาน "โครงการป้องกันและควบคุมไฟป่าระดับพื้นที่ด้วยระบบอากาศยานไร้คนขับตรวจจับความร้อน (Thermal UAVS) ขนาดเล็ก” ภายใต้ความร่วมมือและการสนับสนุนจาก สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงานระดับพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน สนับสนุนภารกิจในการป้องกันรักษาป่า
โครงการนี้จะเป็นการนำระบบอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ตรวจจับความร้อนมาใช้ โดยแยกการดำเนินงานใน 2 ด้าน คือ
1.ด้านการดำเนินงานเชิงปฏิบัติการจริงโดยได้ทำการทดสอบการทำงานในระดับพื้นที่ในภารกิจการป้องกันและควบคุมไฟป่าพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ดำเนินงานร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่แจ่ม
2.ด้านการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมด้วย "การพัฒนาระบบต้นแบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตรวจจับไฟป่าด้วยระบบอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กที่เหมาะสม" ในภารกิจการเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าระดับพื้นที่ โดยได้ขอรับทุนสนับสนุนวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน)
การพัฒนาระบบต้นแบบดังกล่าว ได้วางแผนเพื่อเตรียมรับมือในฤดูกาลเกิดไฟป่าช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2564 และแผนการจัดอบรมหลักสูตรการใช้งานระบบอากาศยานไร้คนขับตรวจจับความร้อนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานไฟป่า ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยาน และ อปท.ที่มีภารกิจป้องกันและควบคุมไฟป่า ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สามารถนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีนี้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงในฤดูกาลเกิดไฟป่าในปีหน้านี้
ภาพประกอบ: ภาพจุดที่เกิดไฟป่าถ่ายจากอากาศยานไร้คนขับ (Drone)
เครดิต : BANGKOKBIZNEWS.COM
รูปเพิ่มเติม